1.Freestyle Stroke
เทคนิคการว่ายท่าฟรีสไตล์
Freestyle คือ การว่ายน้ำที่ไม่จำกัดแบบหรือท่า ในการแข่งขันคุณจะว่ายแบบใดก็ได้ แต่การว่ายฟรีสไตล์เป็นการว่ายที่เร็วที่สุดการว่ายแบบฟรีสไตล์เป็นอย่างไร ? การว่ายท่านี้เป็นการนอนคว่ำลงในน้ำ หมุนแขนของท่านผ่านใต้น้ำและเหนือน้ำอย่างต่อเนื่อง ขาของท่านต้องเตะขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ และหายใจเมื่อท่านหมุนหน้าไปด้านข้าง มีคำพูดที่ว่าการว่ายท่านี้ง่ายมาก แต่มันก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่เราจำเป็นต้องรู้
ดูที่รูปผ่านด้านล้างนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มแนะนำการว่ายท่าฟรีสไตล์ให้แก่คุณ
เส้นทางนำร่องการว่ายน้ำไม่จำกัดแบบหรือท่า (Freestyle) ดังต่อไปนี้ เมื่อออกไปปฏิบัติจริงแล้ว การว่ายและการเรียนรู้ในความคิดจะช่วยให้คุณพัฒนาสไตล์ได้โดยธรรมชาติด้วยตัวเองของคุณ และที่สำคัญอย่างมากคือการเคลื่อนตัวไม่ให้เกิดการต้านน้ำหรือเกิดการต้านน้ำน้อยที่สุด
๏ นอนอยู่ในน้ำ ถ้าคุณทำได้ก็เป็นสิ่งที่ดี
๏ ให้น้ำเป็นตัวช่วยพยุงคุณไม่ให้จม
๏ ทำตัวสบาย ๆ อย่าเกร็ง
๏ เคลื่อนตัวไปข้างหน้า จัดลำตัวให้ลอยอยู่ผิวน้ำ
๏ วางหน้าอกคุณลงใต้น้ำและก้มหัวลงต่ำเล็กน้อย ตัวคุณจะค่อย ๆ สมดุลย์การนอนคว่ำและเคลื่อนตัวไปข้างหน้าจะ เป็นการช่วยสร้างสมดุลย์
๏ พัฒนาความรู้สึกที่มือและแขนของท่านเมื่อผ่านลงไปใต้น้ำ
๏ เอียงหัวไหล่ลงเล็กน้อยเมื่อแขนและมือข้างนั้นกำลังผ่านหรือผลักน้ำ อย่าทำตัวตรงแบนราบตลอดเวลา
๏ ทำการว่ายแบบช้าแต่ดึงแขนยาวในขณะที่เริ่มกับมัน
๏ การเคลื่อนที่ผ่านน้ำคุณจำเป็นต้องเหยียดแขนและมือไปข้างหน้า
๏ หายใจออกอย่างมุ่งมั่นในน้ำ และสร้างระบบการหายใจที่ต่อเนื่อง
๏ เก็บหูของคุณไว้ในน้ำขณะที่คุณกลั่นหายใจและดูลงแขนของคุณ .
๏ ใช้ไหล่ของคุณที่จะนำมาแขนของคุณและมือของคุณ พุ่งแทงน้ำไปข้างหน้า
๏ เตะขึ้นและลง โดยเตะจากตะโพกของคุณลงถึงเท้าของคุณ
2.ฝึกการเคลื่อนไหวแบบโลมา
การเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งที่เป็นการยอมรับของการว่ายน้ำคือ underwater dolphin เป็นการเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก มันเป็นการเคลื่อนไหวเหมือนปลาโลมา ซึ่งนักกีฬาว่ายน้ำมีความจำเป็นที่ต้องฝึกหัดเป็นอย่างมาก ผู้ฝึกสอนบางท่านอาจไม่มุ่งเน้นหรือมองข้ามในสิ่งนี้ก็จะเป็นการเสียโอกาสที่จะสร้างพื้นฐานของการว่ายน้ำที่สมบูรณ์ได้
ทำไมต้องฝึก underwater dolphin
สิ่งที่คุณจะได้เมื่อคุณฝึกคือ การสนับสนุนการว่ายน้ำท่า Butterfly, backstroke, และ freestyle หากคุณฝึกฝนและทำได้อย่างสมบูรณ์ คุณจะพบว่าคุณว่ายน้ำได้เร็วขึ้นอย่างที่คุณสัมผัสความรู้สึกนั้นได้
จะทำมันได้อย่างไร ? HOW TO DO IT
1. ข้อกำหนดแรกคือ การฝึก streamline และการจัดวางมือที่ถูกต้อง โดยการเหยียดแขนตรงและปะกบฝ่ามือ การจัดลำตัวตรงหรือใช้คำว่าตรงเหมือนท่อนไม้ 2. ฝึกการสะบัดขาทั้งสองพร้อมกัน โดยการส่งแรงจากสะโพกไปที่ขา หัวเข่าและข้อเท่าซึ่งต้องสะบัดขึ้นลง การฝึกนี้อาจต้องใช้เวลาเพื่อสร้างความชำนาญและให้คุ้นเคยกับมัน 3. ตลอดระยะทางที่ตัวคุณกำลังเคลื่อนไปข้างหน้า คุณต้องแน่ใจนะว่าพลังที่ส่งตัวคุณออกไปเกิดจากการส่งแรงตามจังหวะตามข้อ 2 และลำตัวคุณต้องไม่ใช่การเลื่อนไหลเหมือนงู คือ แขนก็สะบัด หัวก็ก้ม ๆ เงย ๆ หัวไหลก็โยก สิ่งที่ถูกต้องคือ คุณจะใช้ลำตัวตั้งแต่เอว สะโพก ขา และเท้าเท่านั้น 4. เริ่มต้นฝึกฝนอย่างช้า ๆ และยังไม่ต้องคำนึกถึงความเร็ว แต่เมื่อคุณมีความรู้สึกว่าร่างการคุณถูกใช้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ นั่นแหละถึงเวลาแล้วที่คุณจะเพิ่มความเร็ว
เราจะฝึกฝนทำมันจริง ๆ ได้อย่างไร การฝึกฝน underwater dolphin นี้ คุณสามารถเริ่มต้นฝึกฝนได้ตลอดเวลาเมื่อคุณกลับตัวทุกครั้ง เมื่อคุณเริ่มส่งตัวเองออกมาจากผนังสระโดย ใช้streamline พร้อมทั้ง dolphin kicks สัก 2 - 3 จังหวะ เป็นการเริ่มต้นที่ดี และฝึกทำทุกครั้งที่กลับตัว ทำจนเป็นนิสัย และค่อยๆ เพิ่มความแรงและความเร็วขึ้นเมื่อคุณมีความชำนาญ
3.ท่ากรรเชียง Backstroke
การว่ายท่ากรรเชียงเป็นท่าว่ายที่สวยที่สุด การว่ายกรรเชียงมีประโยชน์ที่จะยืดกล้ามเนื้อ การว่ายกรรเชียง มีหลักเกณฑ์คล้าย ๆ กับการว่ายท่าฟรีสไตล์ ์แตกต่างที่ท่ากรรเชียงเป็นการหงายตัวราบกับระดับน้ำ แต่การว่าย ฟรีสไตล์เป็นการคว่ำตัว และการวางมือหรือผลักน้ำที่เหมาะมือเป็นอัจฉริยะของนักว่ายน้ำ การเรียนรู้ข้อผิดพลาดในการว่ายกรรเชียง ต้องพยายามศึกษาขณะปฏิบัติในน้ำ การยกหัวสูงเกิน, การดันมือไปที่ตะโพกและการนอนหงายเหมือนเรือท้องแบนเป็นการต้านน้ำโดยแผ่นหลัง เมื่อดูจากรูปภาพด้านล่างนี้จะเห็นการเคลื่อนไหวของการว่ายกรรเชียงต้องวางศรีษะให้ต่ำและยกสะโพก ให้ใกล้พื้นผิวน้ำ ( สังเกตรูป )
ต่อไปนี้เป็นการแนะนำการว่ายกรรเชียง ( อย่างย่อ ) การเรียนรู้ด้วยตนเอง การว่ายและเรียนรู้ใช้ความคิด ด้วยตัวคุณจะพัฒนาทักษะการว่ายโดยธรรมชาติด้วยตัวเองของคุณ และส่วนสำคัญอย่างมากคือการลื่นไหล และการต้านของน้ำ 1.ให้น้ำดันตัวคุณขึ้น- คุณต้องไว้ใจมันที่จะทำให้ตัวคุณลอย 2 ยืดตัวยาวขนานกับพื้นน้ำและน้ำอยู่ระหว่างซี่โครงของคุณ และผลักมือให้ลำตัวเคลื่อน 3.วางหัวให้ไปด้านหลัง และยึดคอโดยไม่หันหน้าซ้ายขวา 4.ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ใช่แข็งเหมือนท่อนไม้ 5.เคลื่อนตัวขนานกับน้ำ 6.ยกตะโพกของคุณ ขึ้นข้างบน 7.เตะขาขึ้นลงอย่างถูกต้อง 8.หมุนสะโพกของคุณ ตามจังหวะการว่าย 9.การเตะเท้าอย่าให้เข่าและเท้าอยู่เหนือผิวน้ำ 10.ขณะเริ่มออกตัวให้จัดลำตัวให้ตรง 11.เหยียดแขนให้ตรงขณะที่ออกมาจากน้ำ 12.ทำแขนโค้งงอดึงใต้น้ำ 13.เมื่อถึงธงต้องนับจำนวนแขนของคุณ จากธงถึงกำแพง หากหัวชนกำแพงจะได้รับบาดเจ็บ
4.Butterfly Stroke
Butterfly คือท่าว่ายที่ยากของการที่จะเรียนรู้ท่าว่ายนี้ต้องการกล้ามเนื้อจำนวนมากและข้อต่อและเคลื่อนไหวของไหล่และ ช่วงหลังถึงสะโพก การว่ายน้ำท่านี้ต้องการจังหวะที่ดีของแขนและการเตะขาและจังหวะการหายใจ ( breathing) Flippers ( swimfins ) คือผู้ช่วยซึ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำท่าผีเสื้อ ( butterfly stroke ) การฝึกฝนและการเรียนรู้ในการหมุนหัวไหล่จะช่วยในการว่ายให้ดีขึ้น ถ้าคุณมีความรู้สึกที่จะดูการว่ายของปลาโลมา, สิ่งนั้นคือท่าว่ายสำหรับคุณ เพราะเมื่อคุณดูนักว่ายน้ำว่ายท่าผีเสื้อ และรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีจินตนาการการว่ายของปลาโลมา นั่นแหละคุณกำลังจะเป็นนักว่ายน้ำท่าผีเสื้อที่ดีในอนาคต
๏ เส้นทางนำร่องการว่าย butterfly ดังต่อไปนี้ การว่ายพร้อมทั้งการเรียนรู้ในความคิดของคุณจะช่วยคุณที่จะพัฒนา สไตล์โดยธรรมชาติด้วยตัวเองของคุณ .และที่สำคัญที่สุดคือความรู้ของการลื่นไหลของการว่ายของคุณเอง
๏ สิ่งที่ดีคือการเฝ้าดูนักว่ายน้ำที่มีความสามารถในท่าผีเสื้อ ว่ายเหนือน้ำและใต้น้ำ
๏ รักษาการเป็นลูกคลื่นในส่วนของร่างกายทั้งหมดเป็นจังหวะลูกคลื่น
๏ ว่ายโดยปราศจาก Flippers โดยว่ายแบบปลาโลมา หรือที่เราเรียกว่า Stream Line ฝึกในระยะ 10 - 15 เมตร
๏ ว่ายโดยใช้ Flippers และใช้ขาแบบปลาโลมาแขนเหยียดตรงไปด้านหน้าและอีกครั้งใช้แขนแนบลำตัว อย่างละครั้ง ในเทียวไปและกลับ
๏ ฝึกทำแขนท่าผีเสื้อ ( butterfly ) ข้างหน้ากระจก
๏ ฝึกหายใจเมื่อแขนของคุณกำลังผ่านสะโพก
๏ ร่างกายของคุณ จะปฏิบัติตามหัวของคุณ ในการที่จะรักษาการเป็นลูกคลื่น
๏ เตะขาสองครั้งต่อการหมุนแขนหนึ่งครั้ง
๏ อย่าเกร็งแขน ! ในจังหวะยกขึ้นเหนือน้ำและลงในน้ำ
๏ เก็บหน้าอกของคุณในระดับที่ต่ำในน้ำ, ยกคางของคุณเพื่อที่จะได้รับอากาศ
คุณต้องฝึกทำจนเคยชิน และเมื่อคุณมีความรู้สึกว่าตัวคุณว่ายเหมือนปลาโลมา คุณก็จะเป็นนักว่ายน้ำท่าผีเสื้อที่ยอดเยี่ยม
อย่าลืมการฝึกท่าผีเสื้อเป็นท่าที่ยากและต้องใช้พลังงานและความอดทนที่สูง หวังว่าคุณจะเป็นอีกคนหนึ่งที่
5.การกลับตัว
การกลับตัว เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของการแข่งขันว่ายน้ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักกีฬาควรเน้นฝึกกลับตัวในช่วงฝึกซ้อม เพื่อให้เกิดความเคยชินกับการกลับตัวด้วยความเร็ว นักกีฬาจำนวนมากสามารถลดสถิติของตัวเองได้ด้วยการเน้นการกลับตัวในระหว่างฝึกซ้อม
แต่มีนักกีฬาหลายคนไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการกลับตัว ช่วงฝึกซ้อมคิดว่า ระหว่างการกลับตัวเป็นโอกาสพักผ่อนจากการว่ายที่เหนื่อย จะกลับตัวเร็วเฉพาะช่วงแข่งขันเท่านั้น ถ้าระหว่างฝึกซ้อมไม่เคยกลับตัวด้วยความเร็ว โอกาสที่จะกลับตัวได้ดีช่วงแข่งขันคงเป็นเรื่องยาก
การกลับตัวมีทั้งหมด 7 ชนิดได้แก่ กลับตัวผีเสื้อ,ผีเสื้อกลับตัวว่ายกรรเชียง,กรรเชียง,กรรเชียงกลับตัวว่ายกบ,กบ, กบกลับตัวว่ายฟรีสไตล์ และฟรีสไตล์
ถึงแม้ว่าการกลับตัวจะมีอยู่หลายชนิด แต่ก็มีหลายส่วนที่เหมือนกัน เช่น การกลับตัวในท่าผีเสื้อ กบ และกบกลับตัวว่ายฟรีสไตล์ จังหวะที่มือแตะขอบสระจนกระทั่งถีบขาออกจากขอบสระเหมือนกันทุกอย่าง
วิธีกลับตัวกรรเชียง และฟรีสไตล์ในจังหวะม้วนเข้าไปกลับตัว จนกระทั่งถีบออกจากขอบสระก็เหมือนกัน
การกลับตัวในการว่ายผีเสื้อแล้วกลับตัวว่ายกรรเชียง และกลับตัวในการว่ายกรรเชียงแล้วกลับตัวว่ายกบ มีส่วนที่แตกต่างจากท่าอื่นๆ คือ คว่ำลำตัวเข้าขอบสระแล้วออกด้วยหงาย และหงายลำตัวเข้าขอบสระแล้วคว่ำลำตัวออก ซึ่งต่างจาก 5 ท่าที่กล่าวให้ทราบ ที่คว่ำตัวเข้าและออก หรือหงายตัวเข้าแล้วออก
วิธีการกลับตัวผีเสื้อ
สมมุติว่านักกีฬาจะหมุนตัวออกจากขอบสระทางด้านซ้าย
1) มือแตะขอบสระพร้อมกัน มือขวาอยู่ใกล้ผิวน้ำ มือซ้ายแตะต่ำกว่ามือขวาพอสมควร แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเดียวกัน
2) ดึงแขนซ้ายกลับมา ข้อศอกชิดลำตัว แขนขวาเหวี่ยงข้ามศีรษะพร้อมกับดึงเท้าทั้ง 2 ข้างมาแตะขอบสระ
3) ถีบขาออกจากขอบสระในลักษณะตะแคง พร้อมกับยืดแขนตรง หัวไหล่ทั้ง 2 ข้างชิดหู
4) จังหวะนี้ จะตะแคงลำตัว หรือค่อยๆ คว่ำลำตัว เตะขาคู่ใต้น้ำ
5) เริ่มว่ายท่าผีเสื้อเมื่อถึงผิวน้ำ
วิธีการกลับตัวจากการว่ายผีเสื้อเป็นว่ายกรรเชียง
สมมุติว่านักกีฬาจะใช้แขนซ้ายเหวี่ยงขึ้นข้างบน
1) มือแตะขอบสระพร้อมกัน มือซ้ายอยู่ใกล้ผิวน้ำ มือขวาแตะต่ำกว่ามือซ้ายพอสมควร มือและหัวไหล่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเดียวกัน
2) ดึงแขนขวากลับมา ข้อศอกชิดลำตัว เหวี่ยงแขนซ้ายขึ้นด้านบน พร้อมกับดึงเท้าทั้ง 2 ข้างมาขอบสระ
3) ถีบขาออกจากขอบสระในลักษณะตะแคงหรือหงาย พร้อมกับเหยียดแขนตรง หัวไหล่ทั้ง 2 ข้างชิดหู
4) เตะขาคู่ใต้น้ำ และเริ่มว่ายท่ากรรเชียงเมื่อถึงผิวน้ำ
หมายเหตุ : ผีเสื้อ กรรเชียง ฟรีสไตล์ นักกีฬาเตะขาใต้น้ำได้ 15 เมตร ก่อนที่จะเริ่มว่าย
**วิธีการกลับตัวกรรเชียง**
การว่ายกรรเชียงระยะ 5 เมตร จากธงถึงขอบสระ นักกีฬาควรรู้ว่าใช้จำนวนแขนทั้งหมดเท่าไหร่ก่อนกลับตัว
สมมุติว่า ใช้แขนทั้งหมด 5 แขน ดึงแขนที่ 4 เข้ามาชิดลำตัว เหวี่ยงแขนที่ 5 ข้ามศีรษะ พร้อมพลิกลำตัวมาเป็นนอนคว่ำ แต่ลงแขนลึกพร้อมกับม้วนศีรษะและลำตัวตามแขนไป หงายฝ่ามือทั้งสองผลักน้ำสวนทางกับที่เราม้วนตัว โดยข้อศอกทั้งสองข้างชิดลำตัว ให้ทุกส่วนของร่างกายรวมกันเหมือนลูกบอลที่เล็กที่สุด เหวี่ยงเท้าทั้งสองข้างแตะที่ขอบสระ งอขาเป็นมุมประมาณ 90 องศา ปลายเท้าห่างกันขนาดความกว้างของหัวไหล่ แขนเหยียดตรง ให้หัวไหล่สองข้างชิดหู ถีบตัวออกจากขอบสระ ในลักษณะนอนหงาย เตะขาใต้น้ำ และเริ่มว่ายกรรเชียงต่อไป
หมายเหตุ - ผีเสื้อ กรรเชียง ฟรีสไตล์ นักกีฬาเตะขาใต้น้ำได้ 15 เมตร ก่อนที่จะเริ่มว่าย
**วิธีการกลับตัวจากการว่ายกรรเชียงเป็นว่ายกบ**
สิ่งสำคัญที่นักกีฬาควรจำไว้ระหว่างกลับตัวท่านี้คือ ในจังหวะที่มือแตะขอบสระเพื่อกลับตัว ลำตัวของนักกีฬาจะต้องอยู่ในท่าหงายและตะแคงเท่านั้น ลำตัวคว่ำ หรือกึ่งคว่ำแม้แต่นิดเดียว กรรมการอาจจับฟาวล์ได้
การว่ายกรรเชียงระยะ 5 เมตร จากธงถึงขอบสระ นักกีฬาควรฝึกให้รู้ว่าใช้จำนวนแขนทั้งหมดเท่าไหร่ก่อนแตะขอบสระ เพื่อจะได้เกิดความเคยชินและกลับตัวได้รวดเร็ว การว่ายกรรเชียงแล้วกลับตัวเป็นว่ายกบ มีวิธีให้เลือกปฏิบัติได้ 3 วิธีดังนี้
**วิธีที่ 1** แขนสุดท้ายเอื้อมมือแตะขอบสระใต้ผิวน้ำ โดยที่ลำตัวหงาย ตีลังกาหงายตัวไปตรงๆ เท้าทั้งสองข้างมาอยู่ที่ขอบสระ คว่ำลำตัว ถีบออกจากขอบสระ
**วิธีที่ 2 ** มือซ้ายแตะขอบสระใกล้ผิวน้ำในท่าหงาย ชักขาขึ้นมาทางด้านซ้ายของลำตัว (หมุนตัวในลักษณะนอนหงาย) เหวี่ยงแขนซ้ายกลับมาให้ประกบกับมือขวา เป็นจังหวะเดียวกับเท้าทั้งสองข้างมาแตะที่ขอบสระ ถีบออกจากขอบสระพร้อมกับพลิกลำตัวเปลี่ยนเป็นคว่ำ
**วิธีที่ 3** เป็นการกลับตัวที่เริ่มใช้เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว สมมุติว่าใช้มือขวาแตะขอบสระ เมื่อแขนซ้ายมาชิดลำตัว เหวี่ยงแขนขวาเข้าไปที่ขอบสระพร้อมตะแคงลำตัวมาทางด้านซ้าย จังหวะที่แตะขอบสระลำตัวจะต้องอยู่ในท่าตะแคงเท่านั้น คว่ำลำตัวต่อไปทางด้านซ้าย พร้อมกับเหวี่ยงแขนขวากลับมาชิดลำตัว จังหวะตีลังกากลับตัวเหมือนกับท่ากรรเชียงและฟรีสไตล์ถีบออกจากขอบสระพร้อมกับพลิกลำตัวกลับมาในท่าคว่ำ
นักกีฬาสามารถเลือกกลับตัวได้ตามวิธีที่ถนัด และเมื่อถีบออกจากขอบสระแล้ว จังหวะต่อไปคือ การดึงแขนกบใต้น้ำ ดังนี้
**จังหวะที่ 1** ดึงแขนทั้ง 2 ข้างมาไว้ที่หน้าขา พร้อมกับเตะขาคู่ได้ 1 ครั้ง
**จังหวะที่ 2** ดึงมือทั้ง 2 ข้างเฉียดลำตัวขึ้นมาผ่านหน้า โดยให้ชิดกับลำตัวมากที่สุด พร้อมกับถีบขากบ เริ่มว่ายกบ
เทคนิคการกลับตัว(ตอน 3)
สัปดาห์นี้จะอธิบายวิธีการกลับตัวกบ และการกลับตัวจากการว่ายกบเป็นว่ายฟรีสไตล์ การกลับตัวทั้ง 2 อย่างเหมือนกัน ตั้งแต่จังหวะที่มือแตะขอบสระ จนกระทั่งถีบออกจากขอบสระ หลังจากนั้นจะแตกต่างกัน โดยกบดึงแขนกบใต้น้ำก่อนเริ่มว่ายท่ากบ ส่วนฟรีสไตล์เตะขาคู่ใต้น้ำ หรือว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ทันที จะอธิบายให้เห็นการกลับตัวทั้ง 2 ด้าน เชิญติดตามเลยนะครับ
**วิธีการกลับตัวกบ**
สมมุติว่านักกีฬาจะหมุนตัวออกจากขอบสระทางด้านขวา
1)มือแตะขอบสระพร้อมกัน มือซ้ายอยู่ใกล้ผิวน้ำ มือขวาแตะต่ำกว่ามือซ้ายพอสมควร แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเดียวกัน
2)ดึงแขนขวากลับมา ข้อศอกชิดลำตัว แขนซ้ายเหวี่ยงข้ามศีรษะ พร้อมกับดึงเท้าทั้ง 2 ข้างมาแตะขอบสระ
3)ถีบขาออกจากขอบสระ พร้อมกับยืดแขนตรง หัวไหล่ทั้ง 2 ข้างชิดหู
4)ดึงแขนทั้ง 2 ข้างมาไว้ที่หน้าขา พร้อมกับเตะขาคู่ 1 ครั้ง
5)ดึงมือทั้ง 2 ข้างเฉียดลำตัวขึ้นมาผ่านหน้า โดยให้ชิดกับลำตัวมากที่สุด พร้อมกับถีบขากบ
6)เริ่มว่ายกบ
หมายเหตุ : จังหวะที่ 1 ของการกลับตัวกบ มือแตะขอบสระในระดับต่างกัน นักกีฬาสามารถเอียงลำตัวเพื่อช่วยให้กลับตัวได้เร็วขึ้น
จังหวะที่ 2 เวลาเหวี่ยงแขนซ้ายข้ามศีรษะ นักกีฬาแหงนหน้าขึ้นตามแขนที่เหวี่ยงหรือเอียงลำตัวเหวี่ยงแขนซ้ายหมุนออกด้านขวา
จังหวะที่ 3 คือ การดึงแขนกบใต้น้ำ นักกีฬาเตะขาคู่ได้ 1 ครั้งเท่านั้น จึงควรระวังไม่ให้ขาขยับ เพราะกรรมการอาจจับฟาวล์ได้
**วิธีการกลับตัวจากการว่ายกบเป็นว่ายฟรีสไตล์**
สมมุติว่านักกีฬาจะหมุนออกจากขอบสระทางด้านซ้าย
1)มือแตะขอบสระพร้อมกัน มือขวาอยู่ใกล้ผิวน้ำ มือซ้ายแตะต่ำกว่ามือขวาพอสมควร แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเดียวกัน
2)ดึงแขนซ้ายกลับมา ข้อศอกชิดลำตัว แขนขวาเหวี่ยงข้ามศีรษะ พร้อมกับดึงเท้าทั้ง 2 ข้างมาแตะขอบสระ
3)ถีบขาออกจากขอบสระ พร้อมกับยืดแขนตรง หัวไหล่ทั้ง 2 ข้างชิดหู
4)เตะขาคู่ใต้น้ำ ก่อนว่ายท่าฟรีสไตล์
หมายเหตุ : ผีเสื้อ กรรเชียง ฟรีสไตล์ นักกีฬาเตะขาใต้น้ำได้ 15 เมตร ก่อนที่จะเริ่มว่าย การเตะขาคู่ใต้น้ำเหมาะกับนักกีฬาที่ฝึกจนเคยชิน จากการทดสอบพบว่า เตะขาคู่ใต้น้ำเร็วกว่าว่ายผีเสื้อและกรรเชียง นักกีฬาแข่งผีเสื้อหรือกรรเชียงควรเน้นฝึกการเตะขาคู่ใต้น้ำ
ท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าเดียวที่มีความเร็วสูงกว่าการเตะขาคู่ใต้น้ำ หลายคนคิดว่า ถ้าเร็วกว่าแล้วจำเป็นต้องเตะขาคู่ใต้น้ำทุกครั้งที่ออกจากขอบสระก่อนว่ายท่าฟรีสไตล์หรือไม่
หลังจากถีบออกจากขอบสระแล้ว ร่างกายเคลื่อนที่ไปข้างหน้าค่อยๆ ขึ้นสู่ผิวน้ำ แรงจากขาส่งออกจากขอบสระก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าได้เตะขาคู่อีกสัก 2 ครั้ง จะช่วยให้ร่างกายขึ้นสู่ผิวน้ำได้เร็วขึ้น
การเตะขาคู่ใต้น้ำ 2 ครั้ง เหมาะสำหรับนักกีฬาทั่วไป ถ้ามากกว่านั้นจะเหมาะกับนักกีฬาที่มีความถนัดสูงในการเตะขาคู่ใต้น้ำ แต่ควรทดสอบเพื่อให้แน่ใจ เพราะการว่ายฟรีสไตล์เร็วกว่าเตะขาคู่ใต้น้ำ
**วิธีฝึกการกลับตัวฟรีสไตล์**
จะต้องกะจังหวะให้ถูก ถ้าแขนสุดท้ายก่อนกลับตัวคือ แขนซ้ายจะต้องดึงแขนขวามาชิดลำตัวไว้ จังหวะเดียวกันก็เหวี่ยงแขนซ้ายไปข้างหน้าเหมือนกับลงแขนเวลาว่ายฟรีสไตล์ แต่ลงแขนลึกพร้อมกับม้วนศีรษะและลำตัวตามแขนไป ให้ทุกส่วนของร่างกายรวมกันเหมือนลูกบอลที่เล็กที่สุด หงายฝ่ามือ ผลักน้ำสวนทางกับที่เราม้วนตัว โดยข้อศอกทั้งสองข้างชิดลำตัว ในจังหวะเดียวกันเหวี่ยงขาทั้งสองข้างแตะที่ขอบสระ งอขาเป็นมุมประมาณ 90 องศา ปลายเท้าห่างกันขนาดความกว้างของหัวไหล่ แขนเหยียดตรงให้หัวไหล่สองข้างชิดหู ถีบตัวออกจากขอบสระ พลิกตัวไปด้านที่เราถนัด
การกลับตัวหลายอย่าง มีบางจังหวะที่คล้ายกัน นักกีฬาควรเน้นฝึกกลับตัวระหว่างฝึกซ้อม เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน จำไว้ว่าเข้าไปขอบสระแล้วกลับออกมาให้เร็วที่สุด การกลับตัวไม่ใช่ที่พักเหนื่อย
|